บาคาร่า ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมพนันที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน คาสิโนออนไลน์ แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะคล้ายกับป๊อกเด้งในบ้านเรา แต่เอาเข้าจริง ๆ บาคาร่า มีพื้นฐานการเล่นที่แตกต่างกันออกไปซึ่งหากไม่เข้าใจก็จะทำให้เราเสียเดิมพันได้ง่าย แต่ถ้ารู้เรื่องเหล่านี้แล้วการเล่นไพ่บาคาร่าก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ศัพท์ที่ใช้ในการเล่นบาคาร่า และอัตราจ่าย
- Player หมายถึง เดิมพันว่าผู้เล่นชนะ อัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน
- Banker หมายถึง เดิมพันว่าเจ้ามือชนะ อัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 0.95 ไม่รวมทุน
- Tie หมายถึง เดิมพันว่าจะเสมอกัน อัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน
- Player Pair หมายถึง เดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะได้ไพ่คู่ อัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 11 ไม่รวมทุน
- Banker Pair หมายถึง เดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะได้ไพ่คู่ อัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 11 ไม่รวมทุน
- Big หมายถึง เดิมพันว่าเกมนี้จะจบด้วยไพ่ใบที่ 3 หรือใช้ไพ่มากกว่า 4 ใบ สำหรับอัตราจ่ายขึ้นอยู่กับการกำหนดของ คาสิโนออนไลน์
บาคาร่ามีกี่ประเภท
นอกจาก บาคาร่า แบบคลาสสิคที่นิยมเล่นกันแล้ว ยังมีการนำไพ่ดังกล่าวมาพัฒนาเป็นไพ่ประเภทต่าง ๆ สำหรับใช้เล่นในแต่ละพื้นที่ ดังนี้
- Punto Banco เป็นไพ่ที่นิยมเล่นในอเมริกา, แคนาดา และออสเตรเลีย รวมถึงบนคาสิโนออนไลน์
- Chemin De Fer เป็นไพ่ บาคาร่า สไตล์ยุโรป มีความแตกต่างจากฝั่งอเมริกาในเรื่องกติกาอยู่หลายข้อ แต่ที่ชัดเจนก็คือผู้เล่นต้องทำข้อตกลงทั้งหมด และเจ้ามือจะหมุนเวียนกันรอบโต๊ะ
- Baccarat en Banque เป็นไพ่ยุโรปแบบ 3 สำรับ เจ้ามือก็แล้วแต่ความสมัครใจว่าใครจะเป็น
- Super Pan 9 เป็นไพ่ที่เล่นกันมากในอเมริกา ใช้ไพ่แค่ 36 ใบ โดยจะมีแค่ไพ่หน้า A, 2, 3, 4, 5 และ 6 เท่านั้น
- บาคาร่า 3 ใบ เล่นกันมากในคาสิโนฝั่งเอเชีย โดยแต่ละฝั่งจะได้รับไพ่ 3 ใบตั้งแต่แรก
วิธีเล่นบาคาร่า
แม้ว่า บาคาร่า จะมีอยู่หลายประเภท แต่พื้นฐานการเล่นจะคล้ายกันคือเมื่อนักพนันวางเดิมพันกันแล้ว ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับทั้งสองฝั่ง ฝั่งละ 2 ใบ เริ่มจากฝั่งผู้เล่นก่อน แล้วตามด้วยฝั่งเจ้ามือ โดยไพ่ที่ใช้จะมาจากไพ่จำนวน 6-8 สำรับ จากนั้นจะทำการนับแต้มไพ่โดยดูจาก
- ไพ่ A จะมีค่าเป็น 1 แต้ม
- ไพ่ 2-9 มีค่าเท่ากับเลขหน้าไพ่
- ไพ่ 10, J, Q และ K มีค่าเป็น 0 แต้ม
เวลานับแต้มจะเอาแต้มไพ่แต่ละใบมารวมกันแล้วใช้เฉพาะหลักหน่วยในการวัดว่าฝ่ายไหนจะชนะ โดยดอกไพ่จะไม่มีผลต่อการนับไพ่ ดังนั้นหากแต้มเท่ากันก็จะถือว่าเสมอกัน
ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ไพ่ 8-9 แต้ม จะไม่มีการเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นไพ่แนชเชอรัลซึ่งเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุดสามารถจบเกมได้เลยเช่นเดียวกับป๊อกเด้ง โดยฝ่ายที่ได้ 9 แต้มถือว่าเป็นผู้ชนะสูงสุดของเกม
เงื่อนไขการจั่วไพ่เพิ่ม
ฝั่งผู้เล่นจะได้จั่วไพ่เพิ่มในกรณีที่แต้มรวมของไพ่สองใบอยู่ระหว่าง 0 – 7 แต้ม แต่ถ้าได้ 8 หรือ 9 แต้มไม่ต้องจั่วเพิ่ม ส่วนฝั่งเจ้ามือจะสามารถจั่วเพิ่มได้ในกรณีที่แต้มรวมของไพ่สองใบอยู่ระหว่าง 0 – 5 แต้ม แต่ถ้าได้แต้มระหว่าง 6 – 9 แต้ม จะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้